ในปี ค.ศ. 1970 ระบบเครือข่ายไร้สาย (Wireless LAN) เกิดขึ้นครั้งแรกทีมหาวิทยาลัยฮาวาย ซึ่งเป็นโปรเจกต์ว่า "ALOHNET" ในขณะนั้นการส่งข้อมูลเป็นแบบ Bi-directional คือการส่งไป-กลับง่ายๆ ผ่านคลื่นวิทยุ สื่อสารกันระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ 7 เครื่อง ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะ 4 เกาะโดยมีศูนย์กลางการเชื่อมต่ออยู่ที่เกาะ ที่มีชื่อว่า "Oahu"
ในปี ค.ศ. 1997 สถาบัน IEEE ได้มีการกำหนดมาตรฐาน LAN ไร้สายแบบเดียวกับอีเทอร์เน๊ต และเป็นชุดเดียวกับ 802 โดยให้ชื่อว่า IEEE 802.11 มาตรฐานที่เกิดขึ้นในปีนั้น ยังมีข้อจำกัดทางเทคโนโลยีจึงได้กำหนดระบบการรับส่งสัญญาณด้วยขนาดความเร็ว 2Mbps เท่านั้น หลังจากนั้นระบบ LAN ไร้สาย IEEE 802.11 จึงเป็นที่รู้จักกันนับตั้งแต่นั้นมา
ในปี ค.ศ. 1999 IEEE ได้มีการพัฒนามาตรฐานใหม่ของระบบ LAN ไร้สาย และใช้ชื่อมาตรฐานที่ IEEE 802.11b โดยมีการพัฒนาให้มีความเร็วในการรับส่งได้ถึง 11Mbps และเป็นการส่งข้อมูลแบบฟูลดูเพล๊กซ์ (Full Duplex) คือการรับและส่งแยกกันด้วยความเร็ว 11Mbps จากมาตรฐาน 802.11b ที่ประกาศออกไปนี้ บริษัทผู้ผลิตต่างๆ จึงได้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายไร้สายออกมาอย่างมากมาย โดยเฉพาะบริษัทที่เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายขนาดใหญ่ ได้ให้ความสำคัญในการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีระบบเครือข่ายไร้สายเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเมื่อระบบเครือข่ายมีขนาดใหญ่ และขยายออกไปมากขึ้น ทำให้มีการพัฒานาระบบโรมมิ่ง (Roaming) ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้ายจากเครือข่ายหนึ่งไปยังอีกเครือข่ายหนึ่ง และเนื่องจากการส่งข้อมูลของรระบเครือข่ายไร้สายนั่น มีจุดอ่อนในเรื่องความปลอดภัย เพราะมีการส่งโดยใช้คลื่นวิทยุในอากาศ ทำให้ผู้ผลิตหันมาให้ความสนใจในการปรับปรุงในเรื่องระบบการดูแลรักษาความปลอดภัยของสัญญาณข้อมูลที่แพร่กระจายในอากาศ โดยมีการวางมาตรฐานทางด้านการเข้ารหัส (Encryption) ข้อมูล และระบบดูแลรักษาความปลอดภัยในกาเข้าถึงมากขึ้น
การพัฒนาระบบเครือข่ายไร้สาย ได้เริ่มจากมาตรฐาน 11b มาเป็น 11g ซึ่งเป็นมาตรฐายที่เราใช้กันในปัจจุบันที่สมารถส่งข้อมูลที่ความเร็วสูงสุด 54Mbps โดยยังคงใช้ย่านความถี่ 2.4GHz ในการรับส่งข้อมูลเช่นเดียวกับมาตรฐาน 11b นอกจากมาตรฐาน 11b และ 11g แล้ว ยังได้มีการออกมาตรฐาน IEE802.11a แต่ในช่วงที่ผ่านมาในเมืองไทยไม่สามารถที่ใช้งานมาตรฐานนี้ได้ เนื่องจากใช้ย่านความถี่ 5GHz ซึ่งบ้านเราไม่อนุญาตให้ใช้งาน แต่เมื่อปี 2550 ผ่านมาก็ได้เปิดให้มีการใช้ย่านความถค่นี้แล้ว แต่ก็ไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่งมีน้อย ราคาสูง และยุ่งยากในการใช้งานร่วมกับระบบเครือข่ายไร้สายเดิม สำหรับมาตรฐาน 11g นี้น่าจะเป็นมาตรฐานที่มีผู้ใช้มากที่สุดในปัจจุบันเนื่องจากอุปกรณ์มีราคาที่ไม่สูง และยังสามารถใช้งานร่วมกับ มาตรฐาน 11b ได้ทันที เพราะใช้ย่านความถี่ 2.4GHz เดียวกัน แต่ในขณะนี้ได้มีการออกมาตรฐานใหม่ซึ่งดูเหมือนจะเป็นมาตรฐานที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้ ในเรื่องของความเร็วที่สามารถส่งข้อมูบได้ถึง 300Mbps และยังเพิ่มระยะทางในการส่งข้อมูลให้ได้ไกลมากขึ้นอีกด้วย |